บทที่ 5
เลนส์โพรเกรสซีฟ Free Form Technology
เหนือกว่าเลนส์โพรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีเก่า
อย่างไร
ภาพมุมมองที่หดแคบลงตามค่าสายตาที่เพิ่มขึ้น
ของเลนส์โพรเกรสซีฟเทคโนโลยีเก่า ในบทที่ผ่านมา ได้แสดงให้เราเห็นความจำกัดของเลนส์โพรเกรสซีฟเทคโนโลยีเก่า
ที่ถูกจำกัดด้วยกฎทรงมวล เมื่อ SPH. หรือ CYL. หรือ
Addition เพิ่ม = มวลเพิ่ม = พื้นที่การมองเห็นจะแคบลง พร้อมกับการบิดเบือนด้านข้างที่สูงขึ้น =
ผู้ใช้ ปรับตัวได้ยากขึ้น และใส่ไม่สบาย ในระยะยาว
ผู้ผลิตเลนส์โพรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีเก่าแบบ Semi-Finished
Progressive Front Surface ได้พยายามแก้ปัญหานี้ โดยการออกแบบ และ
ผลิตเลนส์โพรเกรสซีฟ ด้วยระบบ 60 ถึง 120 โครงสร้าง ซึ่งสามารถลดผลกระทบจากค่า SPH.
ลงได้บ้าง โดยมี 5 ถึง 12 โครงสร้าง สำหรับ SPH. step ละ 1.00D ถึง 2.00D
แต่ไม่สามารถลดผลกระทบจากค่าสายตาเอียง ( Cylindrical Effect ) เนื่องจากยังใช้เทคโนโลยีเก่าแก่ที่มีอายุนับร้อยปี
ในการขัดค่า SPH. และ CYL. ด้านหลังแบบ
Spherical และ Toric จึงพบได้บ่อยๆ
ในหลายกรณีที่ ผู้ใช้เลนส์โพรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีเก่า
ที่จ่ายเงินซื้อเลนส์โพรเกรสซีฟคู่ละหลายหมื่นบาท แล้วไม่สามารถปรับตัวได้ หรือ
ปรับตัวได้แต่ใส่ไม่สบาย หรือ ปรับตัวได้ ใส่สบาย แต่มุมมองแคบ
และความคมชัดด้อยลงมาก โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
สองภาพนี้ เป็นโครงสร้างเลนส์โพรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีเก่า
รุ่นเดียวกัน แสดงให้เห็นมุมมองที่แคบลง
การบิดเบือนด้านข้างที่เพิ่มขึ้นบริเวณโซนไกล
ภาพทางซ้ายเป็นโครงสร้างของค่าสายตา Plano ADD 2.00D , ภาพทางขวาเป็นโครงสร้างของค่าสายตา
เลนส์โพรเกรสซีฟ Free Form Technology
รุ่นแรกๆ ที่ผลิตขึ้นในช่วงปี 2000 ได้แก้ปัญหาเหล่านี้
ด้วยการใช้เทคโนโลยี Free Form ขัดผิวด้านหลัง
โดยขัดค่าสายตา SPH. แบบ Aspheric step ละ 0.12D , และขัดค่าสายตาเอียง แบบ Atoric Step ละ 0.12D
/ แนวองศา Step ละ 1 องศา ทำให้สามารถลดการบิดเบือนด้านข้าง
ที่เพิ่มขึ้นจากค่า SPH. และ ค่าสายตาเอียงในทุกองศา
แต่ผิวโพรเกรสซีฟ ยังอยู่ด้านหน้า เราเรียกเลนส์โพรเกรสซีฟชนิดนี้ว่า Free
Form Progressive Front Surface เช่น Rodenstock
Multigressiv 2 ซึ่งเป็นเลนส์โพรเกรสซีฟที่เหนือกว่าเลนส์โพรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีเก่าทุกรุ่น
เลนส์โพรเกรสซีฟ Free Form
Technology ฉีกข้อจำกัดเดิมๆ ของอันเป็นข้อจำกัดที่ไม่สามารถแก้ไขได้บน
เลนส์โพรเกรสซีฟราคาแพงที่ใช้เทคโนโลยีเก่าแบบ Semi-Finished Progressive
Front Surface อันประกอบด้วย
·
การบิดเบือนด้านข้าง ตามค่า SPH. / CYL. /
ADD ที่เพิ่มขึ้นตามกฎทรงมวล ทำให้ปรับตัวได้ยาก
·
Optic Quality ที่ลดลง ตาม SPH. / CYL. / ADD ที่เพิ่มขึ้นตามกฎทรงมวล
·
Vision Field ที่ลดลง ตาม SPH. / CYL. / ADD ที่เพิ่มขึ้นตามกฎทรงมวล โดยเฉพาะผู้ใช้ที่มี SPH. เกินกว่า
-2.00D
·
การบิดเบี้ยวของ Inset กรณีที่ผู้ใช้มีค่าสายตาเอียง ทำให้ระยะกลาง และ ระยะใกล้
ด้อยกว่าผู้ใช้ที่ไม่มีค่าสายตาเอียง (cylindrical effect )
·
Anisometropia
เลนส์โพรเกรสซีฟ Free Form
Progressive Front Surface ได้รับการออกแบบ และ
ผลิตอย่างเฉพาะเจาะจงทีละข้าง ด้วยการขัดค่า SPH. และ CYL.
บนเลนส์ทีละจุดแบบ Aspheric / Atoric ทำให้สามารถลดการบิดเบือนด้านข้างจากค่า
SPH. และ CYL. ลงได้ถึง 35% โดยยังคงรักษา Quality of Vision เพราะไม่ต้องกระจายการบิดเบือนเป็นรูปเขาควาย
ไปทั่วทั้งแผ่นเลนส์ เหมือนเลนส์โพรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีเก่าบางรุ่น ที่ส่งผลให้
Quality of Vision ลดลง
จนทำให้เกิดปัญหาเมื่อขับรถในเวลากลางคืน
ภาพแสดงการกระจายการบิดเบือน
0.12D แบบเขาควาย
ของเลนส์โพรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีเก่า
ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาด้านความคมชัดในเวลากลางคืน
ภาพทางขวา
แสดงมุมมองที่กว้างกว่าถึง 35% ของเลนส์โพรเกรสซีฟ Free Form ที่ค่าสายตา
SPH.
0.00D CYL. 2.00D x 45 ADD 2.00D
ภาพทางขวา
แสดงมุมมองที่กว้างกว่าถึง 30 % ของเลนส์โพรเกรสซีฟ Free
Formที่ค่าสายตา
SPH.
4.00 Prism 3 Base Down
ADD
2.00D
ภาพแสดงวิธีการขัดเลนส์ด้วยเทคโนโลยี Free
Form ที่สามารถขัดโครงสร้างเลนส์อย่างเฉพาะเจาะจง
ให้กับค่าสายตาที่แตกต่างกันได้หลายล้านโครงสร้าง
ทำให้ลดการบิดเบือนทั่วทั้งแผ่นเลนส์ได้ถึง 35% ทำให้ได้ความคมชัดสูงสุด
ทุกมุมมอง ในทุกค่าสายตา
รูปร่างหน้าตาของเครื่อง
CNC
ที่ใช้ขัด
เลนส์โพรเกรสซีฟ Free Form
เลนส์โพรเกรสซีฟเทคโนโลยี
Free
Form ได้รับการพัฒนาต่อ ในสองแนวทาง
1.
ย้ายผิวโพรเกรสซีฟไปไว้ด้านหลังบางส่วน เรียกว่า
Double
Side Progressive Surface ( Dual ADD ) เพื่อลดการบิดเบือนด้านข้างให้น้อยลง
ผู้ผลิตเลนส์โพรเกรสซีฟ ที่มีความชำนาญด้าน Hard Design จะเลือกผลิตเลนส์เทคโนโลยีแบบนี้
เช่น Hoyalux iD , DEFINITY , Nikon Presio W
2.
ย้ายผิวโพรเกรสซีฟไปไว้ด้านหลังทั้งหมด
เรียกว่า Progressive Back Surface ทำให้ได้มุมมองที่กว้างขึ้น ผู้ผลิตเลนส์โพรเกรสซีฟ
ที่มีความชำนาญด้าน Soft Design จะเลือกผลิตเลนส์เทคโนโลยีแบบนี้
เช่น Rodenstock Multigressiv ILT
ภาพบนทางซ้ายมือแสดงถึง
เลนส์โพรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีเก่า
Semi-Finished Progressive Front
Surface
ภาพบนทางขวามือแสดงถึง
เลนส์โพรเกรสซีฟ Free Form Progressive
Back Surface ซึ่งให้มุมมองที่กว้างกว่า แต่การบิดเบือนด้านข้างไม่เพิ่มขึ้น
ดังแสดงให้เห็นในภาพหน้าถัดไป
ภาพแสดงมุมมองของเลนส์โพรเกรสซีฟ
Free Form Progressive Back
Surface
ที่กว้างกว่าเลนส์โพรเกรสซีฟราคาแพงเทคโนโลยีเก่า
ภาพแสดงถึงเลนส์โพรเกรสซีฟที่มีโครงสร้างเดียวกัน
เมื่อผลิตด้วย Free Form Technology จะทำให้ Vision
Field กว้างขึ้น การบิดเบือนด้านข้างลดลง และ
ได้เลนส์ที่บางกว่าเดิม 30 35 % |
ในปัจจุบันเลนส์โพรเกรสซีฟ Free Form ได้พัฒนาเข้าสู่ยุคการออกแบบ
และผลิต เฉพาะบุคคล ด้วยโครงสร้างที่แตกต่างอย่างเฉพาะเจาะจงถึง 42,600,000,000
ล้านโครงสร้าง เช่น Rodenstock Impression ILT , Zeiss
Gradal Individual , Optovision Infinity Individual ทำให้สามารถผลิตเลนส์โพรเกรสซีฟที่ดีที่สุด
สำหรับแต่ละบุคคล ในการใช้งานแต่ละด้าน ได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
การประกอบเลนส์โพรเกรสซีฟเทคโนโลยีสูงเหล่านี้
ต้องอาศัยความรู้ ความชำนาญ และเครื่องมือในการประกอบโดยเฉพาะ
จึงเหมาะสำหรับร้านแว่นที่พัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดนิ่งเท่านั้น
เลนส์โพรเกรสซีฟ
Individual
กับ เลนส์โพรเกรสซีฟ Personalized ต่างกันอย่างไร
1.
เลนส์โพรเกรสซีฟ Individual หมายถึง เลนส์โพรเกรสซีฟ Free Form ที่ออกแบบเฉพาะเจาะจง ตามค่าสายตาของแต่ละบุคคล บนค่าพารามิเตอร์ของกรอบแว่นแต่ละอัน ของแต่ละบุคคล
เช่น Rodenstock Impression ILT , Zeiss Gradal
Individual , Optovision Infinity Individual หากลูกค้าหนึ่งรายสั่งเลนส์โพรเกรสซีฟ Individual
4 คู่ เบอร์สายตาเดียวกัน
สำหรับกรอบแว่น 4 รุ่น เลนส์จะถูกออกแบบและผลิต
เจาะจงตามค่าพารามิเตอร์ของแว่นแต่ละอัน โดยไม่มีข้อจำกัดว่าต้องเลือกกรอบแว่นที่สามารถปรับแต่งให้ได้มาตรฐาน PTA 7 องศา / FFA 5 องศา / CVD
2.
เลนส์โพรเกรสซีฟ Personalized หมายถึง เลนส์โพรเกรสซีฟ Free Form ที่ออกแบบเฉพาะค่าสายตาของแต่ละบุคคล และเลือกโครงสร้าง Soft หรือ Hard ตามพฤติกรรมการหันศีรษะ / การกลอกตา หากลูกค้าหนึ่งรายสั่งเลนส์โพรเกรสซีฟ Personalized 4 คู่ เบอร์สายตาเดียวกัน สำหรับกรอบแว่น 4
รุ่น เลนส์ทั้ง 4 คู่ จะถูกออกแบบและผลิต เหมือนกันทั้ง 4 คู่ กรอบแว่นที่ใช้ จะต้องปรับแต่งให้ได้มาตรฐาน PTA 7 องศา / FFA 5 องศา / CVD